ได้อ่านบทความของ “ดร. สมเกียรต อ่อนวิมล”
ใน Aday กล่าวถึงประเทศมาเลเซียไว้ดังนี้
นายกมหาเธร์ มูฮัมหมัด
มีวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า มองไปเลย 20 ปี
เริ่มตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยมองว่าปี 2020
มาเลเซียจะต้องเป็นอย่างไรแล้วขณะนี้
ผู้ที่มาสืบต่อมาก็ยึดปรัชญาเดิมหรือวิชั่นเดิม
นายก อาหมัด บันดาวี ก็พูดย้ำบอกว่า
มาเลเซียจะต้องเป็น developed country
หรือเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2020
ผมใจหายวาบเลย หมายความว่า
วิชั่นของมหาเธร์เขาทำสืบต่อมาตลอด
แล้วรัฐบาลปัจจุบันก็ยังเดินต่อ….
คือไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย 100%
อันนี้พูดตามหลักเพลโต
แต่ว่าผู้นำต้องมีบารมี
บริหารจัดการประเทศอย่างเป็นผู้นำ
และเป็นนักปรัชญาที่มองการณ์ไกล
ไม่ใช่ว่ามองอะไรใกล้ๆ
หากเราต้องการขับเคลื่อนให้ประเทศ
“กำลังพัฒนา” อย่างจริงจัง
รัฐจะต้องมีแผนระยะยาวให้กับคนในประเทศ
ไม่ใช่แค่นโยบาย 3-4 ปีของพรรคการเมือง
ที่มีต้องการจะเป็นรัฐบาลในปัจจุบัน
รัฐต้องมีแผนระยะยาวที่ชัดเจน
และระบุสิ่งที่จะต้องบรรลุผลไม่ว่าพรรคการเมืองใด
จะชนะหรือไม่ชนะการเลือกตั้งก็ต้องทำ!
มีผู้เสนอว่า นโยบายไทยแลนด์ 4.0
โดยกำหนดเป็นแผนถึง 20 ปีนั้นมันยาวเกินไป
อาจจะไม่ยืดหยุ่นหรือไม่เหมาะสมกับโลกยุคดิจิตอล
ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วแค่ปีสองปี
หรือบางท่านก็บอกเรามีแผนระยะยาวอยู่แล้ว
คือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่มีแผนฉบับแรกมาตั้งแต่ปี 2507
จนถึงแผน 5 ปี ฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ปี
ซึ่งก็เป็นจริง ตามนั้น แต่การมี
“แผนระยะยาว”
ที่มีเป็นครั้งแรกในครั้งนี้
หากทุกคนเปิดใจและมีมุมมองใหม่ว่า
“การมีเพิ่ม”
ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร
การมีแผนไทยแลนด์ 4.0 ตามกรอบ 20 ปีนั้น
ก็พอเหมาะพอสมและอุ่นใจกว่าไม่มี!
มาร่วมกันพัฒนาประเทศไทย
ไปกับแผนไทยแลนด์ 4.0
โดยการเรียนรู้ข้อมูลหลายๆ ด้าน
พร้อมวิเคราะห์และศึกษาแผนเป้าหมายกันเถอะครับ
เชิญทุกท่านศึกษาข้อมูลยุทธศาสตร์ชาติได้ที่
http://nscr.nesdb.go.th/